เลขนำโชคกับเลขโชคร้ายของจีน





เลขนำโชค


เลขนำโชคตัวแรกคือ เลข 0

เพราะเป็นเลขคู่ (โดยปกติคนจีนชอบอะไรเป็นคู่) และมีความหมายเกี่ยวกับเงิน

ตัวที่สองคือ เลข 2 
 เพราะคนจีนเชื่อว่า โชคดีมักมาเป็นคู่ เห็นได้จากงานแต่งงานนิยมมีสัญญลักษณ์คำว่า 喜(xǐ) (สี่) = happiness สองตัวมาติดกัน หมายถึง สุขสองเท่า (จากเจ้าบ่าวและเจ้าสาว)
ตัวที่สามคือ เลข 3  เพราะคนจีนเชื่อว่าชีวิตคนเรามี 3 สถานะ ได้แก่ เป็นเด็ก เป็นผู้ใหญ่ และเป็นคนแก่ หรือไม่ก็ เกิด แต่งงานและตาย นอกจากนี้ คำว่า “三 (sān) (ซาน)” ยังมีเสียงคล้ายกับคำว่า “生 (shēng) (เซิง)” มีหมายถึง “เกิด” อีกด้วย

ตัวที่สี่คือ เลข 6  ฝรั่งเชื่อว่าเลข 6 หมายถึงความโชคร้าย ยิ่งถ้า 666 (เรียงกัน 3 ตัว) ยิ่งโชคร้ายหนักขึ้น สำหรับคนจีนแล้วเลข 6 ยิ่งมากยิ่งดี เพราะเสียง “六 (liù) (ลิ่ว)” พ้องเสียงกับคำว่า “ราบรื่น” จึงเป็นเลขเหมาะกับทำธุรกิจ วันเปิดห้างร้านต่างๆ เชื่อว่าโชคลาภจะไหลเวียนดี


ตัวที่ห้าคือ เลข 8  เป็นสุดยอดอภิมหาความเชื่อเลขมงคลคนจีน คนจีนชอบเลข 8 มากที่สุด ในคลิปเล่าว่ามีหมายเลขโทรศัพท์ 888-8888 ขายที่เมืองจีน สนนราคาไม่มากไม่น้อยแค่ 8 ล้านกว่าบาทเท่านั้นเอง เพราะใครๆ ก็ชอบที่บอกหมายเลขโทรศัพท์กับคนอื่นว่า โทรศัพท์ฉันคือหมายเลข รวย รวย รวย – รวย รวย รวย รวย - -'
แม้กระทั่งกีฬาโอลิมปิคที่จีนเป็นเจ้าภาพก็จัดวันที่ 8 เดือน 8 (สิงหาคม) ปี 2008 ในเวลา 08.08.08 (สองทุ่มแปดนาที แปดวินาที!!) ที่ชอบกันมากมายขนาดนี้เพราะเลข 8 พ้องเสียงกับคำว่า ”发财 (fā cái) (ฟา ไฉ)” ที่แปลว่า “รวย” นั่นเอง
นอกจากนี้ถ้าหมุน เลข 8 ให้เป็นด้านขวางแล้วมีสัญญลักษณ์เหมือน ∞ (Infinity) = ไม่สิ้นสุด แปลว่ายิ่งรวยอย่างไม่สิ้นสุดนั่นเอง

เลขนำโชคเลขสุดท้ายคือ เลข 9 คนจีนชอบเลข 9 เพราะมีเสียงใกล้เคียงกับคำว่า “久 ( jiǔ) (จิ่ว)” ที่หมายถึง “อายุยืน” เลขนี้เกี่ยวข้องกับฮ่องเต้ของจีนตั้งแต่สมัยโบราณ บนกำแพงพระราชวังถ้ามีรูปมังกรสลัก (ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของฮ่องเต้) ก็ต้องมี 9 ตัว และห้องในพระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่งมีจำนวน 9,999 ห้องอีกด้วย

มาดูเลขโชคร้ายของจีนกันค่ะ

ตัวแรกคือ เลข 4 เสียงของเลข 4 นี้พ้องเสียงกับคำว่า “死(sǐ) (สื่อ)” = ตาย คนจีนจะหลีกเลี่ยงงานมงคล เช่น งานแต่งงานในเดือน 4 (เดือนเมษายน) หมายเลขโทรศัพท์ก็ไม่อยากมีเลข 4 เพราะเวลาจะบอกใครก็ต้องมีคำว่า “ตาย” ด้วยซึ่งถือว่าไม่เป็นมงคล

ตัวที่สองคือ เลข 5  เพราะเสียงของเลข 5 พ้องกับคำว่า “无 [wú] (อู่)” = ไม่มีอะไรเหลือ

ตัวที่สามคือ เลข 7 สำหรับฝรั่งถือว่าเลข 7 เป็นเลขดี แต่สำหรับคนจีนเป็นได้ทั้งเลขที่ดีและเลขที่ไม่ดี คนจีนเชื่อว่าเดือน 7 (เดือนกรกฏาคม) เป็นเดือนที่ผีถูกปล่อยจากนรกมายังโลกมนุษย์ แต่วันวาเลนไทน์ของคนจีนก็ตรงกับวันที่ 7 เดือน 7 ด้วย เรียกว่าเทศกาลชีซี  ซึ่งมีตำนานความรักเรื่องหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า (ถ้าสนใจจะมาเล่าต่อนะคะ)

ตัวที่สี่คือ เลข 13  อาจจะไม่เกี่ยวความเชื่อของฝรั่งในข้อนี้ แต่เพราะเลข 13 มาจากเลข 1+3 = 4 ซึ่งไม่ดีนั่นเอง

ตัวสุดท้ายคือ เลข 14 เพราะเลข 1 ในภาษาจีนออกเสียง 2 อย่างคือ (yī) (อี) หรือ (yāo) (เยา) ก็ได้ เวลาออกเสียงเลข 14 一四(yāo sì) (เยา ซื่อ) จึงคล้ายกับคำว่า 要死(yào sǐ) (เย่า สื่อ) ที่หมายถึง "ไปตายซะ" นั่นเอง
Share on Google Plus

About Unknown

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 comments :

Post a Comment